ข้อแตกต่างและประสิทธิภาพในการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล VS รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
ในปัจจุบันนี้ มีธุรกิจมากมายที่ต้องการเลือกใช้งานรถยก หรือ รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) ให้ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อประโยชน์สำหรับการช่วยทุ่นแรงในการเคลื่อนย้ายวัสดุที่มีน้ำหนักมากไปทำการจัดเก็บหรือใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามด้วยรูปแบบและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีความแตกต่างกันออกไปในอุตสาหกรรมแต่ละประเภท ส่งผลให้การเลือกรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าหรือรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลมาใช้งาน จึงมีข้อควรพิจารณาที่มากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากรถโฟล์คลิฟท์แต่ละประเภททั้งรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าล้วนถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์กับการนำมาใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกัน ลองมาดูไปพร้อม ๆ กันเลยว่า รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า มีความแตกต่างกันอย่างไร? และรถโฟล์คลิฟท์แต่ละประเภทสามารถตอบโจทย์การนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไรบ้าง?รู้จักกับรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล (Diesel Forklift)
รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล (Diesel Forklift) คือ เครื่องจักรขนาดเล็กประเภทเครื่องยนต์สันดาป ที่มีการใช้น้ำมันดีเซลเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อน เพื่อช่วยให้รถโฟล์คลิฟท์เครื่องยนต์ดีเซลมีสมรรถนะในการปฏิบัติงาน และเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานสำหรับการยกย้ายในอุตสาหกรรมหนักหรือพื้นที่กลางแจ้งรู้จักกับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift)
รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (Electric Forklift) เป็นรถโฟล์คลิฟท์ยุคใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์แทนการใช้น้ำมันประเภทต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการช่วยทำให้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีความคล่องตัวสำหรับการทำงานในพื้นที่จำกัดที่มากขึ้น รวมถึงมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าไม่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนหรือมลพิษในระหว่างการใช้งานเปรียบเทียบข้อแตกต่างของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า
- ด้านความคุ้มค่าของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีอัตราการสิ้นเปลืองที่น้อยกว่ารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล เนื่องจากเมื่อทำการเปรียบเทียบราคาของน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ลิตรละ 14.18 บาท (ข้อมูลราคาวันที่ 26/11/2563) ต่ออัตราการสิ้นเปลืองที่ 2.30 ลิตร ต่อชั่วโมง จะพบว่า การใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลเป็นระยะเวลา 8 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 7,827.36 บาท ในขณะที่ค่าพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 3.5 บาท ซึ่งรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจะใช้กำลังไฟที่ 11 kW ในระยะเวลา 6 ชั่วโมง และชาร์จ 1.75 ชั่วโมง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 1,372.50 บาท จะเห็นได้ว่าการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายที่น้อยรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลอยู่ที่ประมาณ 5 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าก็ยังมีค่าบำรุงรักษาที่น้อยกว่าเนื่องจากมีมอเตอร์น้อยกว่ารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล
- ด้านระยะเวลาในการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีระยะเวลาในการใช้งานที่ยาวนานกว่ารถโฟล์คลิฟท์ดีเซล โดยสามารถใช้งานได้นานติดต่อกันสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง โดยที่ไม่ต้องชาร์จประจุไฟใหม่ และรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ามีระยะเวลาพักชาร์จอยู่ที่ราว ๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วหากมีการบริหารจัดการเวลาในการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าที่ดีก็จะทำให้สามารถใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าได้ถึง 3 กะ หรือ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว
- ด้านสมรรถนะในการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า เนื่องด้วยข้อจำกัดในด้านของระบบไฟฟ้าที่อาจได้รับผลกระทบหรือเกิดความเสียหายเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้น มีฝนตก หรือหนาวเย็น ส่งผลให้รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจึงเหมาะสำหรับการนำใช้งานในร่มหรือภายในตัวอาคารที่มีพื้นที่จำกัด ในขณะที่รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลซึ่งมีเครื่องยนต์สมรรถนะแรงสูงนั้นจะเหมาะสำหรับการใช้งานหนักในพื้นที่กลางแจ้ง เพื่อรองรับกับการขน-ยกย้ายได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานมากกว่า
- ด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟส (Lithium Iron Phosphate / LiFePO4) ที่มีจุดเด่นในด้านของการไม่ก่อให้เกิดฝุ่นควันหรือมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะแตกต่างไปจากรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลที่อาจก่อให้เกิดควันหรือไอเสียจากการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ แต่อย่างไรก็ตามรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลรุ่นใหม่ ๆ ของยูนิแคริเออร์ อย่างเช่น รุ่น 1F Series ก็ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ QD32 มาตรฐาน EU Stage IIIA และ US EPA Tier III ที่สามารถช่วยลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (หรือ NOx) จากไอเสียได้มากกว่าเดิมถึง 57%
- ด้านนวัตกรรมที่แตกต่างกันของรถโฟล์คลิฟท์แต่ละประเภท เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กับการนำมาใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งผลให้รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจึงมาพร้อมด้วยนวัตกรรมที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น รถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า รุ่น BX2 Series ที่มีจุดเด่นในด้านของการใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง / 3 กะ (ในกรณีใช้งานกับแบตลิเธียมฯ) เหมาะกับการใช้งานในคลังสินค้า โกดัง หรือห้องเย็นที่มีอุณหภูมิต่ำสุดถึง – 55 องศา อีกทั้งยังมีโหมดการใช้งานที่สามารถเลือกปรับได้ตามความเหมาะสม (Customizing Characteristics) ถึง 3 ระดับ และทนน้ำได้ที่ IPX4 ซึ่งเป็นมาตรฐานการต้านของเหลวที่ช่วยป้องกันความเสียหายจากสเปรย์น้ำหรือการสาดน้ำให้กับรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าในทุกทิศทาง ทำให้สามารถใช้งานกลางฝนได้ระดับนึง สำหรับรถโฟล์คลิฟท์ดีเซล รุ่น 1F Series มาพร้อมด้วยจุดเด่นเกี่ยวกับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่น QD32 มาตรฐาน EU Stage IIIA และ US EPA Tier III ที่มีสมรรถนะสูง ทนทาน ใช้งานง่าย รวมถึงมีเทคโนโลยีที่สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในอากาศก่อนการจุดระเบิด Closed-loop feed back และ Computor ECM เพื่อให้เกิดการเผาไหม้และไอเสียที่น้อยที่สุด นอกจากนี้รถโฟล์คลิฟท์ดีเซล รุ่น 1F Series ยังมีการออกแบบให้ขับสบาย ควบคุมง่าย มีทัศนวิสัยที่ปลอดโปร่ง คล่องตัว และสามารถทรงตัวได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ด้านการนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจะเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานภายในร่มหรือตัวอาคารเพื่อการช่วยยก–เคลื่อนย้ายสินค้าในพื้นที่จำกัด ยกตัวอย่างเช่น ภายในศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้า โกดังสินค้า หรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ในขณะที่รถโฟล์คลิฟท์ดีเซลจะสามารถใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมหนักท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น มีฝุ่น หรืออยู่กลางแจ้ง ยกตัวอย่างเช่น ท่าเรือ อู่ต่อเรือ ไซต์งานก่อสร้าง หรือโกดังสินค้ากลางแจ้ง เป็นต้น
สนใจรถโฟล์คลิฟท์ดีเซลและรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า หรือติดต่อสอบถาม
บริษัท สยามกลการอุตสาหกรรม จำกัด
8/5 หมู่ 8 ถนน สุขุมวิท (สายเก่า) ตำบลท่าข้าม
อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24130
โทรศัพท์ : 038 574 297
Line : @UniCarriersThai
E-mail : [email protected]